มีเครื่องหมายคำถามเกิดขึ้นมากมายหลังการได้พบเจอและสัมผัสนาฬิกาตัวนี้ เช่นว่ากลไกการทำงานเป็นอย่างไร ทำไมหน้าปัด เข็มดูแล้วราวกับว่าใช้จอภาพแบบ AMOLED เหมือนใน smart phone มาแสดงผล ทั้ง ๆ ที่เป็นนาฬิกาดำน้ำแบบกลไกขี้นลานอัตโนมัติ หรือเมื่อมองอีกมุมแล้วก็คล้ายว่า มีของเหลวบรรจุอยู่ในหน้าปัดทรงโดมนี้ สิ่งที่เราได้เอ่ยมาล้วนเป็นโจทย์ที่เจ้า Ressence TYPE 5 ทิ้งไว้ให้ LWQP มาคลายปริศนาให้ผู้อ่านในวันนี้กันครับ

ที่มาของชื่อนาฬิกาสัญชาติเบลเยี่ยมนี้ Ressence มาจากคำว่า Renaissance รวมกับคำว่า Essence โดยการสนธิชื่อของแบรนด์นั้นให้อารมณ์และกลิ่นอายของแบรนด์เทคโนโลยีรุ่นใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญาการออกแบบของผู้ก่อตั้งหรือนาย Benoît Mintiens ได้กล่าวไว้ว่า
สร้างด้วยประสบการณ์ที่สั่งสม ผลิตโดยเทคโนโลยีล่าสุด นาฬิกาของเราถูกออกแบบมาสำหรับอนาคต (Built on the expertise of yesterday, Crafted with today’s technology, Our watches are designed for tomorrow)

ตัวเรือนทรงกลมขนาดใหญ่ 46 มม. หนา 15.5 มม. มาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำได้ 100 เมตร ทำจาก Grade 5 Titanium ที่เคลือบดำแบบ DLC (สายผ้าใบสีดำ) หรือ จะ Polished grade 5 titanium (สายผ้าใบสีเขียว)
ความน่าสนใจของ Grade 5 Titatnium
หลายคนก็จะสงสัยว่าไทเทเนียมแบ่งเกรดกันอย่างไร แล้วเกรดไหนถึงดี ตามที่ผมศึกษามา เกรด 1 -4 ของไทเทเนียมนั้นเป็นไทเทเนียมบริสุทธิ์ แต่จะต่างกันที่สัดส่วนของออกซิเจนภายในไทเทเนียมเท่านั้น ซึ่งก๊าซออกซิเจนมีผลโดยตรงต่อคุณสมบัติเชิงกลของไทเทเนียม การเจือออกซิเจนเข้าไปในอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้นจึงมีคุณสมบัติเชิงกลที่ดีขึ้น (เช่นความแข็ง หรือความทนต่อแรงดึง) สำหรับไทเทเนียมเกรด 5 หมายถึงมีการเจือของธาตุผสม คือ 6% อลูมิเนียม และ 4% วาเนเดียม เขียนกำกับได้ว่า Ti-6Al-4V เป็นไทเทเนียมที่มีน้ำหนักต่อคุณสมบัติเชิงกลที่ดี จึงเป็นไทเทเนียมอัลลอยที่นิยมใช้มากที่สุดในอุตสาหกรรม

ภายใต้หน้าปัดกระจกแซฟไฟร์ทรงโดมเคลือบสารป้องกันการสะท้อนนั้นบรรจุของเหลวที่ห่อหุ้มการทำงานของกลไกที่เรียกว่า ROCS (Ressence-Orbital-Convex-System) ซึ่งใน Ressence TYPE 5 นั้นกลไกการทำงานแบ่งเป็น 2 ห้องด้วยกัน โดยใช้แผ่น Grade 5 Titanium เป็นตัวกั้นระหว่างห้องทั้งสอง ห้องแรกนั้นจะบรรจุน้ำมันสูตรเฉพาะของทาง Ressence เอง ทำให้เกิดปรากฏการณ์หยดน้ำ (Water Drop) ซึ่งจะเป็นการดึงภาพหน้าปัดพร้อมพรายน้ำที่อยู่ใต้น้ำมันมาปรากฏบนกระจกโดมได้อย่างชัดเจน และถ้าลองสังเกตแล้ว หลักการนี้เหมือนกับการแสดงผลของเข็มทิศแม่เหล็ก (Magnetic Compass) หรือ Main Compass บนเรือเดินสมุทรที่ยังคงความ Tradition ไว้อยู่ทุกวันนี้แม้ว่าในปัจจุบันจะมีเข็มทิศไยโร (Gyro Compass) แบบไฟฟ้าที่มีความแม่นยำสูงเข้ามาแทนที่แล้วก็ตาม แล้วในส่วนการแสดงผลของเข็มทิศแม่เหล็กก็จะมีของเหลวที่มีชื่อว่าเคโรซีนบริสุทธิ์ (Purified kerosene) บรรจุอยู่คล้ายกันกับเจ้า Ressence TYPE 5

ข้อดีของการบรรจุของเหลวทำให้เกิดความได้เปรียบในการใช้งานจริงใต้น้ำของ เนื่องจากไม่มีปรากฏการณ์ “Total Internal Reflection” จึงไม่ว่าจะมองหน้าปัดมุมไหนๆ ก็จะปราศจากซึ่งการสะท้อนกลับของแสงให้กวนใจ จึงเคลมได้ว่า Ressence TYPE 5 จึงเป็นหนึ่งในนาฬิกาดำน้ำที่ตอบโจทย์ของการใช้งานใต้น้ำที่ดีที่สุดในปัจจุบัน

ส่วนห้องตัวเรือนถัดมาที่ไม่ได้บรรจุของเหลวไว้จะเป็นพื้นที่ของกลไก Customized 2824/2 CAL. ซึ่งใช้ ETA 2824-2 เป็นพื้นฐาน การขับเคลื่อนกลไกนั้นอาศัยคลื่นแม่เหล็กในการส่งผ่าน (Magnetic Transmission) ทำให้การแบ่งทั้งห้องทำได้โดยสมบูรณ์ นอกจากจะหมดปัญหาการรั่วซึมอย่างหมดจดแล้ว LWQP คิดว่าเป็นแนวคิดที่ชาญฉลาดมาก เพราะการที่จะแยกห้องที่บรรจุน้ำมันกับห้องที่ใส่กลไกออกจากกันด้วยซีลยางนั้นจะเป็นการผลักดันความรับผิดชอบให้ผู้ซื้อ เพราะวัสดุยางไม่ถูกกับน้ำมัน ทำให้เสื่อมสภาพภายในระยะเวลาอันสั้นและส่งผลให้ต้องมีการส่งซ่อมบำรุงอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับ TYPE 5 เราจึงสามารถสบายใจหายห่วงในเรื่องนี้ นอกจากนั้นยังมีช่องแสดงอุณหภูมิของน้ำมันไว้สำหรับให้ผู้ใช้มองเห็นอยู่ตลอด (วงสีเหลืองแดงน้ำเงิน) เพราะความหนืดที่เปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิจะส่งผลต่อกลไกได้ถ้าไม่อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม (10 ถึง 40 องศาเซลเซียส)

ความพิเศษ และเอกลักษณ์อีกอย่างที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้คือ นาฬิกา Ressence ไม่มีเม็ดมะยม “No Crown” ท่านผู้อ่านคงสงสัยว่าแล้วจะปรับตั้งนาฬิกาอย่างไร ขึ้นลานอย่างไร ซึ่งความลับอยู่ที่ด้านหลังตัวเรือน จะมีแป้นหมุนและลูกศรบอกทิศทางว่าทิศทางไหนขึ้นลาน ทิศทางไหนเป็นการปรับแต่งเวลา อาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวสักหน่อย แต่ถ้าลองปรับแต่งสักพักจะรู้สึกว่าไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย ถ้าจะให้เขียนอธิบายคงจะมองไม่เห็นภาพ LWQP จึงได้จัดทำวิดีโอให้ผู้อ่านทำความเข้าใจกันโดยง่ายครับ
ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลเชิงลึกที่นำเสนอวันนี้ สำหรับ Ressence TYPE 5 มีราคาค่าสู่ขออยู่ที่ 1,473,000 บาท และ LWQP ขอขอบคุณ S.T. Dimension Watch Boutique (Tel. 02 610 9678) ที่เปิดโอกาสให้ทีมงานของเราเข้าไปสัมผัสนาฬิกาสุดพิเศษเรือนนี้

ถ้าผู้อ่านชื่นชอบบทความและรีวิวของ LWQP ต้องห้ามลืมที่จะเพิ่ม @LWQP เป็นเพื่อนใน LINE (อย่าลืม @ หน้าชื่อ) เพราะเราจะอัพเดทข้อมูลใหม่บน LINE ส่งตรงถึงมือผู้อ่านอย่างทันเหตุการณ์