ถ้าหากใครได้อ่านบทความ “BVLGARI เปิดตัวเรือนเวลา Pre-Basel 2017” จะได้เห็นเรือนเวลารุ่นใหม่ของบุลการีบางส่วนก่อนที่จะถึงงาน Baselworld 2017 ซึ่งเราประทับใจกับทิศทางของแบรนด์ที่ได้ขยายคอลเลกชัน Octo ให้กว้างขึ้น นั่นคือ Octo Roma รุ่นใหม่ที่เพิ่มความโค้งมนบนตัวเรือน ทำให้นาฬิกาที่มีรหัสพันธุกรรมแข็งแกร่งดั่งชายหนุ่มแนวเข้มที่พร้อมเอาชนะในทุกสังเวียนการแข่งขัน เปลี่ยนเป็นสุภาพบุรุษใส่ชุดสูทนั่งดื่มชาในยามบ่าย ผู้มีไลฟ์สไตล์เรียบง่ายแต่หรูหรา

สำหรับ Baselworld 2017 ที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสการนำเสนอในรอบสื่อมวลชนของ Bulgari ซึ่งเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับคอลเลกชันใหม่ต่างๆ รวมถึงการเข้าไปสัมภาษณ์คุณ Jean-Christophe Babin (CEO ของ BVLGARI) จึงขอนำเสนอสิ่งที่เราคิดว่าเป็นจุดเด่นของเรือนเวลาบุลการีในปี 2017 ที่ควรจะติดตามครับ

การทุบสถิติครั้งที่ 3 ของ BVLGARI OCTO
หากเราย้อนไปเมื่อปี 2014 Bulgari ได้ก้าวขึ้นมาครองตำแหน่งผู้ผลิตกลไกตูร์บิญองที่บางที่สุดในโลก คือกลไกรุ่น BLV268SK ที่ประดับอยู่ใน Octo Finissimo Tourbillon ที่มีกลไกบางเพียงแค่ 1.95 มิลลิเมตร ในตอนนั้นตัวเราเองก็ไม่ได้มองว่า Bulgari ที่ดูเป็นแบรนด์เครื่องประดับเต็มขั้น จะแอบซุ่มมุ่งเน้นการพัฒนากลไกของตัวเองให้ทุบสถิติโลก ในสองปีต่อมา คืองาน Baselworld 2016 Bulgari ก็ออกมาเปิดตัว Octo Finissimo Minute Repeater ที่มีกลไกบางเพียง 3.12 มิลลิเมตร เป็นกลไกแบบตีบอกนาที (minute repeater, มินิทรีพีทเตอร์) ที่บางที่สุด (ที่ยังมีการผลิตอยู่) เป็นการทุบสถิติครั้งที่สองที่ต้องทำให้ LWQP กลับมาหันมองอย่างจริงจัง

สำหรับปี 2017 ทาง LWQP มองว่า Octo Roma นั้นสร้างความประทับใจไว้พอสมควรในช่วงก่อน Baselworld แต่ทว่าหมัดเด็ดที่ Bulgari จะแสดงจริงๆ นั้น กลับเป็นการทุบสถิติครั้งที่ 3 ของแบรนด์ ด้วยการเปิดตัว BVLGARI Octo Finissimo Automatic ที่มาพร้อมกับกลไกขึ้นลานอัตโนมัติที่บางที่สุดในโลกรุ่น BVL 138 ที่หนาเพียง 2.23 มิลลิเมตร บางกว่ากลไก ultra thin ในตลาดอย่าง Piaget 1200P (2.35 มิลลิเมตร) และ Vacheron Constantin Calibre 1120 (2.45 มิลลิเมตร)

ตัวเรือน หน้าปัด และสายของ Finissimo Automatic ทำจากไทเทเนียม ซึ่งได้รับอิทธิพลจาก Octo Finissimo Minute Repeater ทำให้เรือนเวลารุ่นใหม่นี้สามารถวางตำแหน่งราคาไว้อย่างน่าสนใจที่ 447,000 บาท สำหรับรุ่นสายหนัง และ 482,000 บาทสำหรับสายไทเทเนียม นับว่าเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับคนที่พิจารณาความบางของเรือนเวลาในช่วงราคาที่น่าสนใจ
Serpenti Skin หลากสีสัน 312 รูปแบบ
ในปี 2017 ทางบุลการีได้เปิดตัว Serpenti Skin รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับตัวเรือน หน้าปัด และสายหลากหลายรูปแบบ แม้ว่าการเลือกชนิดของสายหรือตัวเรือนเพื่อให้เข้ากับความต้องการของผู้ซื้อจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ด้วยตัวเลือกที่ Bulgari บอกไว้ว่ามีประมาณ 312 รูปแบบ จึงได้ออกโปรแกรมพิเศษบน iPad ที่ให้เราสามารถคัดเลือกรูปแบบของตัวเรือนและสายที่ต้องการ รวมถึงการสลักข้อความบนตัวเรือนได้อย่างสะดวก มีเพียงไม่กี่สาขาในโลกเท่านั้นที่จะมีโปรแกรมดังกล่าว (และหนึ่งในนั้นคือสาขาสยามพารากอนประเทศไทยครับ)

สำหรับ Serpenti Skin จะสนนราคาเริ่มต้นที่ 141,000 บาท สำหรับตัวเรือนสเตนเลสสตีล และราคาจะสูงขึ้นถ้าหากจะมีขอบเป็นเพชร ตัวเรือนทอง หรือสายรูปแบบพิเศษ เป็นหนึ่งในเรือนเวลาที่ตอบโจทย์ความต้องการของสุภาพสตรีได้อย่างลงตัว

ความโปร่งใสและกลไกชั้นยอด
ภายใต้ concept ว่า “Transparent Complexity” Bulgari ได้เคยเปิดตัวนาฬิการุ่น Tourbillon Saphir Ultranero ไว้ในงาน Baselworld 2015 เป็นการเปิดแนวคิดในการนำกลไกสุดซับซ้อนมาเปิดให้เห็นภายใต้ตัวเรือนที่โปร่งใส ที่ล้อมด้วยพรายน้ำ Super-LumiNova ส่องสว่างทั้งตัวเรือน ซึ่งถูกจำกัดไว้ในเฉดสีเขียวและดำ และในปีนี้ Bulgari ได้นำคอนเซ็ปนั้นมาผนวกเข้ากับตัวเรือนไทเทเนียมเคลือบ D.L.C (Diamond Like Carbon) ขนาด 44 มิลลิเมตร และใช้ชื่อว่า BVLGARI Octo Tourbillon Sapphire

โดย Octo Tourbillon Sapphire เรือนใหม่นี้ ขับเคลื่อนด้วยกลไกขึ้นลานด้วยมือรุ่น BVL 206 ที่มาพร้อมกับฟลายอิ้งตูร์บิญอง (Flying Tourbillon) สามารถสำรองพลังงานลานได้ 64 ชั่วโมง แค่คำว่า “Tourbillon” นั้น ได้บ่งบอกถึงความเป็นสุดยอดกลไกที่ทีมช่างนาฬิกาจากโรงงานของ Bulgari ที่ Le Sentier ขัดแต่งและประกอบมาให้ ในส่วนของหน้าปัดเราจะสามารถมองเห็นชุดเฟืองและจักรต่าง ๆ ทำงานอย่างแม่นยำ
ทาง Bulgari วางค่าตัวของ Octo Tourbillon Sapphire เรือนใหม่นี้ไว้ที่ 65,000 สวิสฟรังก์ หรือถ้าแปลงเป็นเลขไทยกลม ๆ จะอยู่ที่ประมาณ 2.3 ล้านบาท

ทั้งหมดนี้ คือภาพรวมและทิศทางของ Bulgari ที่ได้ก้าวขึ้นมาในตลาดนาฬิกาอย่างเต็มตัว และ LWQP คาดหวังว่าใน Baselworld 2018 ที่จะมาถึงในปีถัดไป บุลการีจะทุบสถิติอะไรใหม่ๆ ให้เราได้ตื่นตาอีกเช่นเดิมครับ

สำหรับผู้อ่านของเราที่ยังไม่ทราบข่าว ตอนนี้ LWQP ได้เพิ่มทางเลือกใหม่ โดยเราได้พัฒนาระบบให้ Facebook Messenger ของ LWQP สามารถค้นหารีวิวโดยแบ่งตามประเภทได้อย่างน่าอัศจรรย์ รวมถึงการติดตามข่าวสารผ่าน Facebook Messenger ที่รวดเร็ว เพียงแค่เข้าไปที่ https://m.me/lwqpwatch แล้วเขียนทักทายว่า “สวัสดี” เท่านี้ผู้ช่วยอิเล็กทรอนิกส์ของเราจะพาผู้อ่านของเราไปรู้จักระบบใหม่ครับ